สัญญาณเตือน 5 มะเร็งในน้องแมว
มะเร็งเป็นโรคที่สามารถพบได้ในสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกับมนุษย์ แมวก็มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้เช่นกัน แม้ว่าอัตราการเกิดโรคมะเร็งในแมวจะต่ำกว่าสุนัข แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมะเร็งในแมวมักจะมีความรุนแรงและยากต่อการรักษามากกว่า ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงมะเร็งที่พบได้บ่อยในน้องแมว พร้อมทั้งวิธีการตรวจวินิจฉัยและการรักษา รวมถึงสัญญาณเตือนและวิธีป้องกัน เพื่อให้เจ้าของแมวมีความรู้ความเข้าใจและสามารถดูแลน้องแมวได้อย่างเหมาะสม
1. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในแมว โดยคิดเป็นประมาณ 30% ของมะเร็งทั้งหมดในแมว มะเร็งชนิดนี้เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายอวัยวะ แต่พบบ่อยที่สุดในระบบทางเดินอาหาร
Image Credit: www.meowlovers.com
อาการที่พบ:
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- อาเจียน ท้องเสีย
- ซึม เหนื่อยง่าย
- ต่อมน้ำเหลืองโต
การรักษา: ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและตำแหน่งที่เกิด โดยทั่วไปมักใช้การให้ยาเคมีบำบัด ซึ่งแมวมักตอบสนองต่อการรักษาได้ดี
2. มะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer)
มะเร็งผิวหนังเป็นอีกหนึ่งชนิดที่พบได้บ่อยในแมว โดยเฉพาะในแมวที่มีขนสีขาวหรือสีอ่อน และชอบนอนอาบแดด มะเร็งผิวหนังที่พบบ่อยในแมวได้แก่ Squamous Cell Carcinoma และ Mast Cell Tumors
อาการที่พบ:
- ก้อนเนื้อหรือแผลที่ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณหู จมูก และเปลือกตา
- แผลที่ไม่หายหรือมีเลือดออก
- ขนร่วงเป็นหย่อม ๆ
การรักษา: ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของมะเร็ง อาจใช้วิธีการผ่าตัด ฉายแสง หรือให้ยาเคมีบำบัด
3. มะเร็งเต้านม (Mammary Cancer)
มะเร็งเต้านมพบได้บ่อยในแมวเพศเมียที่ไม่ได้ทำหมัน โดยเฉพาะแมวที่มีอายุมากกว่า 10 ปี มะเร็งชนิดนี้มักเป็นชนิดร้ายแรงและแพร่กระจายได้เร็ว
Image Credit: M. Sam, Shutterstock
อาการที่พบ:
- ก้อนเนื้อบริเวณเต้านม
- เต้านมบวม แดง หรือมีแผล
- น้ำนมไหลผิดปกติ
การรักษา: ส่วนใหญ่ใช้วิธีการผ่าตัด ร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดในบางกรณี การทำหมันแมวเพศเมียก่อนอายุ 1 ปี สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมได้อย่างมาก
4. มะเร็งกระดูก (Osteosarcoma)
แม้จะพบได้น้อยกว่าในสุนัข แต่มะเร็งกระดูกก็เป็นมะเร็งที่พบได้ในแมว โดยมักพบในแมวที่มีอายุมากกว่า 10 ปี
Image Credit: Nataly-Mayak, Shutterstock
อาการที่พบ:
- ขาเจ็บ เดินกะเผลก
- บวมบริเวณกระดูก
- เบื่ออาหาร ซึม
การรักษา: มักใช้วิธีการผ่าตัดตัดขาร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด ในบางกรณีอาจใช้การฉายแสงเพื่อบรรเทาอาการปวด
5. มะเร็งในช่องปาก (Oral Cancer)
มะเร็งในช่องปากพบได้บ่อย โดยเฉพาะชนิด Squamous Cell Carcinoma ซึ่งมักพบในแมวที่มีอายุมากกว่า 10 ปี
อาการที่พบ:
- ก้อนเนื้อในปาก
- กลิ่นปากแรง
- น้ำลายไหลมาก
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
การรักษา: ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของมะเร็ง อาจใช้วิธีการผ่าตัด ฉายแสง หรือให้ยาเคมีบำบัด
การป้องกันและการตรวจคัดกรองมะเร็งในแมว
แม้ว่าเราจะไม่สามารถป้องกันมะเร็งได้ 100% แต่มีหลายวิธีที่เราสามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงและตรวจพบมะเร็งได้เร็วขึ้น:
- ทำหมันแมวเพศเมีย: การทำหมันแมวเพศเมียก่อนอายุ 1 ปี สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ใกล้แมว: ควันบุหรี่มือสองเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอดและมะเร็งช่องปากในแมว
- ป้องกันการติดเชื้อ FeLV: ไวรัสลิวคีเมียในแมว (Feline Leukemia Virus) เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- จำกัดการสัมผัสแสงแดด: โดยเฉพาะในแมวขนสีขาวหรือสีอ่อน เพื่อลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง
- ตรวจสุขภาพประจำปี: การพาแมวไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
การดูแลแมวที่เป็นมะเร็ง
หากแมวของคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง อย่าเพิ่งท้อแท้ การรักษามะเร็งในแมวมีความก้าวหน้าอย่างมากในปัจจุบัน แมวหลายตัวสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีแม้จะเป็นมะเร็ง สิ่งสำคัญคือการรักษาร่วมกับสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดและให้การดูแลที่เหมาะสม
บทบาทของการดูแลขนและผิวหนังในการป้องกันมะเร็งแบบเบื้องต้น ฉบับ Maru Cat Grooming
ที่ Maru Cat Grooming เราตระหนักดีว่าการดูแลขนและผิวหนังของแมวไม่เพียงแต่ช่วยให้น้องแมวดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการป้องกันและตรวจพบมะเร็งแต่เนิ่นๆ อีกด้วย
1. การตรวจสอบผิวหนัง: ในระหว่างการอาบน้ำและแต่งขน เราจะตรวจสอบผิวหนังของน้องแมวอย่างละเอียด หากพบความผิดปกติใดๆ เช่น ก้อนเนื้อ แผล หรือรอยโรคที่ผิดปกติ เราจะแจ้งให้เจ้าของทราบทันที เพื่อสามารถพาไปพบสัตวแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว
2. การดูแลขนอย่างสม่ำเสมอ: การแปรงขนและอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยให้ขนของน้องแมวสวยงาม แต่ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยให้เราสังเกตความผิดปกติได้ง่ายขึ้น
3. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย: ที่ Maru Cat Grooming เราใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับผิวของแมว เพื่อลดความเสี่ยงในการระคายเคืองผิวหนังซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้
บทสรุป
มะเร็งเป็นโรคที่น่ากลัว แต่ด้วยความรู้และการดูแลที่เหมาะสม เราสามารถช่วยให้น้องแมวของเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ การสังเกตอาการผิดปกติ การพาแมวไปตรวจสุขภาพประจำปี และการให้การดูแลที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและรักษามะเร็งในแมว
อ้างอิง:
[1] Vail, D. M. (2007). Feline lymphoma and leukemia. In: Withrow & MacEwen's Small Animal Clinical Oncology, 4th ed. Saunders Elsevier, St. Louis, MO, USA, pp. 733-756.
[2] Louwerens, M., et al. (2005). Feline lymphoma in the post-feline leukemia virus era. Journal of Veterinary Internal Medicine, 19(3), 329-335.
[3] Murphy, S. (2013). Cutaneous squamous cell carcinoma in the cat: current understanding and treatment approaches. Journal of Feline Medicine and Surgery, 15(5), 401-407.
[4] Overley, B., et al. (2005). Association between ovariohysterectomy and feline mammary carcinoma. Journal of Veterinary Internal Medicine, 19(4), 560-563.
[5] Heldmann, E., et al. (2000). Feline osteosarcoma: 145 cases (1990-1995). Journal of the American Animal Hospital Association, 36(6), 518-521.
[6] Stebbins, K. E., et al. (1989). Feline oral neoplasia: a ten-year survey. Veterinary Pathology, 26(2), 121-128.