แชร์

โรคลูคีเมียในแมว (FeLV) ภัยร้ายที่คุกคามชีวิตน้องแมว

อัพเดทล่าสุด: 15 ก.ค. 2024
โรคลูคีเมียในแมว (FeLV) ภัยร้ายที่คุกคามชีวิตน้องแมว

เจ้าของแมวทุกคนต่างปรารถนาให้สัตว์เลี้ยงของตนมีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว แต่มีโรคร้ายแรงบางชนิดที่อาจคุกคามชีวิตของเจ้าเหมียวได้ หนึ่งในนั้นคือ "โรคลูคีเมียในแมว" หรือ "มะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว" หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการแพทย์ว่า Feline Leukemia Virus (FeLV) บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับโรคนี้อย่างละเอียด พร้อมทั้งแนะนำวิธีป้องกันและดูแลแมวของคุณให้ปลอดภัยจากโรคร้ายนี้

 

รู้จักกับโรคลูคีเมียในแมว

โรคลูคีเมียในแมวเกิดจากการติดเชื้อไวรัส Feline Leukemia Virus (FeLV) ซึ่งเป็นไวรัสในกลุ่ม Retrovirus โรคนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1964 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวสกอตแลนด์ชื่อ William Jarrett และคณะ นับแต่นั้นมา โรคนี้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกและกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในแมว


การติดต่อของโรค

FeLV สามารถแพร่กระจายจากแมวสู่แมวได้หลายวิธี โดยเฉพาะการสัมผัสโดยตรงกับน้ำลาย เลือด หรือสารคัดหลั่งอื่น ๆ ของแมวที่ติดเชื้อ :
  • การสัมผัสโดยตรงผ่านน้ำลาย เลือด หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ
  • การใช้ภาชนะร่วมกัน เช่น ชามอาหารหรือน้ำ
  • การติดต่อจากแม่สู่ลูกผ่านทางรกหรือน้ำนม
  • การกัดหรือข่วนกันระหว่างแมว

การติดเชื้อ FeLV แบ่งออกเป็น 3 ระยะหลัก:
  1. ระยะปฐมภูมิ: ไวรัสเข้าสู่ร่างกายและเริ่มแพร่กระจายในกระแสเลือด
  2. ระยะทุติยภูมิ: ไวรัสเข้าไปในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ต่อมน้ำเหลือง ไขกระดูก
  3. ระยะปลาย: ระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายและเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ


แมวที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ FeLV ได้แก่ แมวจรจัด แมวที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีแมวหลายตัว และแมวที่ออกไปนอกบ้านเป็นประจำ



อาการของโรค

เมื่อแมวติดเชื้อ FeLV ระบบภูมิคุ้มกันของแมวจะถูกทำลาย ทำให้แมวมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่าย นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการของโรคลูคีเมียในแมวมีหลากหลาย ตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง เช่น:

  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • ซึม ไม่มีแรง
  • มีไข้
  • ท้องเสีย
  • หายใจลำบาก
  • ต่อมน้ำเหลืองโต
  • ติดเชื้อซ้ำซ้อนบ่อยครั้ง
  • มีปัญหาเกี่ยวกับเหงือกและช่องปาก
  • ภาวะโลหิตจาง


การวินิจฉัยโรค

การวินิจฉัยโรคลูคีเมียในแมวทำได้โดยการตรวจเลือด ซึ่งมีวิธีการตรวจหลัก 2 แบบ คือ:

  • ELISA Test: เป็นการตรวจหาโปรตีนของไวรัส FeLV ในเลือด สามารถทำได้ที่คลินิกสัตวแพทย์และให้ผลรวดเร็ว
  • IFA Test: เป็นการตรวจหาไวรัสในเม็ดเลือดขาว มักใช้ยืนยันผลจาก ELISA Test 

นอกจากนี้ สัตวแพทย์อาจพิจารณาทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจนับเม็ดเลือด การตรวจชิ้นเนื้อ หรือการถ่ายภาพรังสี เพื่อประเมินสภาพร่างกายของแมวโดยรวม


การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคลูคีเมียในแมวให้หายขาด การรักษาส่วนใหญ่จึงเป็นการรักษาตามอาการและประคับประคองให้แมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ วิธีการรักษาอาจรวมถึง:
  • การให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อแทรกซ้อน
  • การให้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน
  • การให้ยาต้านไวรัส
  • การให้เลือดในกรณีที่แมวมีภาวะโลหิตจางรุนแรง
  • การรักษาด้วยเคมีบำบัดในกรณีที่เกิด



การป้องกันการแพร่กระจายของโรค

การป้องกันการแพร่กระจายของ FeLV เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การแยกแมวที่ติดเชื้อออกจากแมวที่ไม่ติดเชื้อเป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การตรวจสุขภาพแมวเป็นประจำและการทดสอบ FeLV ในแมวใหม่ที่นำเข้ามาในบ้านจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรค รวมถึงการฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันโรคลูคีเมียในแมว ซึ่งวัคซีนช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรคได้เช่นเดียวกัน


การดูแลแมวที่ติดเชื้อ FeLV

แมวที่ติดเชื้อ FeLV ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำ เจ้าของแมวควร:
  • ให้แมวได้รับอาหารที่มีคุณภาพสูงและเสริมวิตามิน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแมวตัวอื่น ๆ ที่ไม่ติดเชื้อ
  • ตรวจสุขภาพและติดตามอาการของแมวกับสัตวแพทย์เป็นประจำ

 

บทสรุป

โรคลูคีเมียในแมวเป็นโรคที่ร้ายแรงและมีผลกระทบต่อสุขภาพของแมวอย่างมาก การตระหนักถึงสาเหตุ การติดต่อ และอาการของโรคเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลและป้องกันโรค การตรวจสุขภาพแมวเป็นประจำและการดูแลที่ดีจะช่วยให้แมวที่ติดเชื้อมีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพของแมว ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสม



อ้างอิง
  • Cornell University College of Veterinary Medicine. "Feline Leukemia Virus (FeLV)." Retrieved from Cornell University
  • VCA Animal Hospitals. "Feline Leukemia Virus (FeLV) Vaccination." Retrieved from VCA Hospitals
  • PetMD. "Feline Leukemia Virus (FeLV) - Symptoms, Diagnosis, & Treatment." Retrieved from PetMD
  • American Veterinary Medical Association (AVMA). "Feline Leukemia Virus." Retrieved from AVMA






บทความที่เกี่ยวข้อง
เห็บแมว: อันตรายที่มองไม่เห็น
เห็บเป็นปรสิตขนาดเล็กที่สร้างปัญหาใหญ่ให้กับแมวและเจ้าของได้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเห็บในแมวอย่างละเอียด รวมถึงอันตรายที่เกิดจากเห็บ วิธีป้องกัน และการกำจัด เพื่อให้คุณสามารถดูแลน้องแมวสุดที่รักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
15 ส.ค. 2024
ทำหมันแมว: ทางเลือกที่ใช่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของเจ้าเหมียว
เคยคิดไหมว่าการทำหมันแมวจะเปลี่ยนชีวิตแมวของคุณได้อย่างไร? นอกจากจะลดปัญหาการเกิดลูกแมวที่ไม่ได้วางแผนแล้ว การทำหมันยังช่วยส่งเสริมสุขภาพและพฤติกรรมที่ดีขึ้นในแมวของคุณด้วย มาดูกันว่าทำไมการทำหมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้!
2 ส.ค. 2024
ทำไมการทำหมันแมวตัวเมียถึงสำคัญ? ค้นหาคำตอบได้ที่นี่!
การทำหมันแมวตัวเมียไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาลูกแมวจำนวนมากเกินไป แต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพและพฤติกรรมของเจ้าเหมียวอีกด้วย อ่านต่อเพื่อรู้จักกับขั้นตอนการทำหมันแมวตัวเมีย และการดูแลหลังผ่าตัดที่ควรรู้
2 ส.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy