"ตัวไร" ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นเจ้าปรสิตตัวร้ายของน้องเหมียว

• การคันหูอย่างรุนแรง: แมวจะเกาหูบ่อยๆ หรือสั่นหัวเพื่อลดความรำคาญจากการคัน
• การสะสมของขี้หู: ขี้หูจะมีลักษณะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม มีลักษณะคล้ายกับกากกาแฟ
• กลิ่นไม่พึงประสงค์: หูของแมวอาจมีกลิ่นเหม็นอันเนื่องมาจากการติดเชื้อ
• อาการเจ็บปวด: แมวอาจแสดงอาการเจ็บปวดเมื่อถูกสัมผัสที่หูหรือรอบๆ หู
• การสูญเสียการได้ยิน: ในกรณีที่มีการติดเชื้อรุนแรง ไรหูอาจทำให้แมวสูญเสียการได้ยินชั่วคราวหรือถาวร

การวินิจฉัยโรคไรหูในแมว

หากสงสัยว่าแมวของคุณอาจมีไรหู ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง สัตวแพทย์จะใช้เครื่องมือส่องดูหู (Otoscope) เพื่อดูว่ามีไรหูหรือไม่ นอกจากนี้ อาจมีการเก็บตัวอย่างขี้หูเพื่อตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อยืนยันการวินิจฉัย

การรักษาโรคไรหูในแมว

การรักษาโรคไรหูในแมวประกอบด้วยหลายวิธีดังนี้:

• การใช้ยาหยอดหู: สัตวแพทย์จะสั่งยาหยอดหูที่มีส่วนผสมของสารฆ่าไรหู เช่น ไพรีทริน (Pyrethrin) หรือมลาฟูริชิน (Milbemycin Oxime) ยาจะถูกหยอดลงในหูของแมวตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
• การทำความสะอาดหู: การทำความสะอาดหูอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยลดปริมาณขี้หูและสารคัดหลั่งที่สะสม การใช้สารละลายทำความสะอาดหูที่เหมาะสมกับแมวจะช่วยให้หูสะอาดและลดการติดเชื้อ
• การใช้ยาฆ่าเชื้อและยาลดการอักเสบ: หากมีการติดเชื้อรุนแรง สัตวแพทย์อาจสั่งยาฆ่าเชื้อหรือยาลดการอักเสบเพื่อรักษาการติดเชื้อ

• การรักษาความสะอาด: ทำความสะอาดหูของแมวอย่างสม่ำเสมอ และตรวจหาสัญญาณของโรคไรหูเป็นประจำ
• การป้องกันการติดเชื้อ: หลีกเลี่ยงการให้แมวสัมผัสกับสัตว์ที่มีไรหู และรักษาความสะอาดของสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าห่ม หมอน และของเล่น
• การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกัน: ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันไรหูที่แนะนำโดยสัตวแพทย์ เช่น ยาหยอดหรือยาฆ่าแมลง

ข้อควรระวัง
แม้ว่าการรักษาโรคไรหูในแมวจะมีความสำเร็จสูง แต่หากปล่อยให้แมวมีอาการเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น การสูญเสียการได้ยินถาวร ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพของแมวอย่างสม่ำเสมอ และหากพบอาการผิดปกติ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

สรุป
โรคไรหูในแมวเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย แต่สามารถรักษาได้หากตรวจพบและรับการรักษาอย่างถูกต้อง การดูแลและทำความสะอาดหูของแมวอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไรหู หากคุณสงสัยว่าแมวของคุณมีไรหู ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

อ้างอิง
1. Lindsay, Diana S., et al. "Otodectes cynotis (Family Psoroptidae): treatment of ear mites in dogs and cats." Veterinary Parasitology, vol. 58, no. 1-2, 1995, pp. 105-117.
2. Muller, G. H., et al. "Mites and other parasites." Small Animal Dermatology, 6th ed., W.B. Saunders, 2001.
3. Hendrix, Charles M. "Diagnostic Veterinary Parasitology." 4th ed., Elsevier, 2016.
4. Ghubash, Rana, et al. "Comparative efficacy of three treatments for ear mite (Otodectes cynotis) infestation in naturally infested cats." Journal of the American Animal Hospital Association, vol. 45, no. 5, 2009, pp. 230-234.
5. Hargis, A. M., and P. G. Ginn. "Feline otitis externa and cutaneous otic neoplasms." Veterinary Clinics of North America: Small Animal Practice, vol. 35, no. 3, 2005, pp. 723-732.

------------------------------------------------------------------------------------------------

ร้าน Maru Cat Grooming เราให้บริการอาบน้ำน้องแมวโดยเฉพาะ เมื่อคุณลูกค้าเลือกรับบริการร้านเรา น้องแมวที่คุณรักจะได้รับการดูแลแมวอย่างเป็นมิตรและปลอดภัย เพราะเราใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้มั่นใจว่าน้องแมวของคุณได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพดีที่สุด