แชร์

วัคซีนไข้หัดแมว โล่ป้องกันชีวิตน้องเหมียว

อัพเดทล่าสุด: 11 ก.ค. 2024
วัคซีนไข้หัดแมว โล่ป้องกันชีวิตน้องเหมียว

โรคไข้หัดแมว หรือที่รู้จักในชื่อทางการแพทย์ว่า Feline Panleukopenia Virus (FPV) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่คุกคามชีวิตของแมวทั่วโลก โดยเฉพาะลูกแมวและแมวที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับความสำคัญของวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวและวิธีการดูแลป้องกันน้องแมวที่ถูกต้อง

 

หากต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไข้หัดแมวเพิ่มเติม สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่บทความ  โรคหัดแมว-ภัยร้ายที่ซ่อนเร้น-ทาสแมวต้องรู้ก่อนสาย



ความสำคัญของวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมว

วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวถือเป็นวัคซีนหลัก (Core Vaccine) ที่สัตวแพทย์แนะนำให้แมวทุกตัวได้รับ ไม่ว่าจะเป็นแมวเลี้ยงในบ้านหรือแมวที่ออกไปนอกบ้าน เนื่องจากโรคนี้มีความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตสูง

ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวมีดังนี้:

  • ป้องกันการติดเชื้อ: วัคซีนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของแมวให้สร้างแอนติบอดีต่อต้านเชื้อไวรัส FPV
  • ลดความรุนแรงของโรค: แม้ในกรณีที่แมวที่ได้รับวัคซีนติดเชื้อ อาการของโรคมักจะไม่รุนแรงเท่าแมวที่ไม่ได้รับวัคซีน
  • ป้องกันการแพร่ระบาด: การฉีดวัคซีนให้แมวอย่างทั่วถึงช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคในประชากรแมว
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว: การป้องกันด้วยวัคซีนมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาโรคไข้หัดแมวที่เกิดขึ้นแล้ว

 

ตารางการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมว

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวควรทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ โดยทั่วไปมีตารางการฉีดดังนี้ :

  • ลูกแมวอายุ 6-8 สัปดาห์: เริ่มฉีดวัคซีนครั้งแรก
  • ฉีดซ้ำทุก 3-4 สัปดาห์ จนกว่าลูกแมวจะมีอายุ 16 สัปดาห์หรือมากกว่า
  • ฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่อแมวอายุ 1 ปี
  • หลังจากนั้น ฉีดกระตุ้นทุก 1-3 ปี ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์


สำหรับแมวโตที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ควรฉีด 2 ครั้งห่างกัน 3-4 สัปดาห์ และฉีดกระตุ้นตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

 

ประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมว

วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรค การศึกษาพบว่าแมวที่ได้รับวัคซีนครบตามกำหนดมีภูมิคุ้มกันต่อโรคได้นานถึง 3 ปีหรือมากกว่า อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของวัคซีนอาจลดลงในแมวที่มีภาวะเครียด ขาดสารอาหาร หรือมีโรคประจำตัว

 

 

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีน

แม้ว่าวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวจะมีความปลอดภัยสูง แต่อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ เช่น:
  • อาการปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด
  • ไข้เล็กน้อย
  • เบื่ออาหารชั่วคราว
  • ง่วงซึมมากกว่าปกติ


ผลข้างเคียงเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 1-2 วัน หากพบอาการรุนแรงหรือไม่หายภายใน 2-3 วัน ควรปรึกษาสัตวแพทย์

 



การดูแลแมวหลังฉีดวัคซีน

เพื่อให้การฉีดวัคซีนเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง ควรปฏิบัติดังนี้:

  • สังเกตอาการผิดปกติของแมวอย่างใกล้ชิดใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดวัคซีน
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำหรือทำให้บริเวณที่ฉีดวัคซีนเปียกเป็นเวลา 1-2 วัน
  • ให้แมวได้พักผ่อนเต็มที่และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากใน 1-2 วันแรก
  • ให้อาหารและน้ำตามปกติ แต่อย่าบังคับถ้าแมวเบื่ออาหารเล็กน้อย
  • หลีกเลี่ยงการพาแมวไปในที่ที่มีแมวจำนวนมากหรือสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อใน 1-2 สัปดาห์แรกหลังฉีดวัคซีน

 

กรณีที่ควรระวังหรืองดการฉีดวัคซีน

แม้ว่าวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวจะมีความจำเป็น แต่มีบางกรณีที่อาจต้องพิจารณาเป็นพิเศษหรืองดการฉีดวัคซีน เช่น:
  • แมวที่กำลังป่วยหรือมีไข้
  • แมวที่กำลังตั้งท้อง (ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อพิจารณาความเหมาะสม)
  • แมวที่มีประวัติแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง
  • แมวที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ในกรณีเหล่านี้ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการฉีดวัคซีนเป็นรายกรณี


 

การป้องกันโรคไข้หัดแมวนอกเหนือจากการฉีดวัคซีน

นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว เจ้าของแมวสามารถช่วยป้องกันโรคไข้หัดแมวได้โดย:
  • รักษาสุขอนามัยที่ดี เช่น ทำความสะอาดกรงหรือห้องน้ำแมวอย่างสม่ำเสมอ
  • แยกแมวป่วยออกจากแมวตัวอื่น
  • หลีกเลี่ยงการนำแมวไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สถานรับเลี้ยงสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสิ่งของที่อาจปนเปื้อนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม

 

บทสรุป

วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องสุขภาพของแมว การฉีดวัคซีนตามกำหนดและการดูแลสุขภาพแมวอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคร้ายแรงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การปรึกษาสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าแมวของคุณได้รับการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมที่สุด


อ้างอิง:
[1] American Veterinary Medical Association. (2023). Feline Panleukopenia. Retrieved from https://www.avma.org/resources-tools/pet-owners/petcare/feline-panleukopenia
[2] Cornell Feline Health Center. (2022). Feline Panleukopenia. Retrieved from https://www.vet.cornell.edu/departments-centers-and-institutes/cornell-feline-health-center/health-information/feline-health-topics/feline-panleukopenia
[3] Day, M. J., et al. (2016). WSAVA Guidelines for the vaccination of dogs and cats. Journal of Small Animal Practice

บทความที่เกี่ยวข้อง
เห็บแมว: อันตรายที่มองไม่เห็น
เห็บเป็นปรสิตขนาดเล็กที่สร้างปัญหาใหญ่ให้กับแมวและเจ้าของได้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเห็บในแมวอย่างละเอียด รวมถึงอันตรายที่เกิดจากเห็บ วิธีป้องกัน และการกำจัด เพื่อให้คุณสามารถดูแลน้องแมวสุดที่รักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
15 ส.ค. 2024
เลี้ยงแมวระบบปิด VS ระบบเปิด แบบไหนดีกว่า?
การเลี้ยงแมวมีหลายรูปแบบ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการเลี้ยงในระบบปิดและเปิดมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน? ถ้าอยากรู้ว่าระบบไหนเหมาะกับคุณและแมวที่รัก มาหาคำตอบในบทความกันเถอะ!
5 ส.ค. 2024
ทำหมันแมว: ทางเลือกที่ใช่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของเจ้าเหมียว
เคยคิดไหมว่าการทำหมันแมวจะเปลี่ยนชีวิตแมวของคุณได้อย่างไร? นอกจากจะลดปัญหาการเกิดลูกแมวที่ไม่ได้วางแผนแล้ว การทำหมันยังช่วยส่งเสริมสุขภาพและพฤติกรรมที่ดีขึ้นในแมวของคุณด้วย มาดูกันว่าทำไมการทำหมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้!
2 ส.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy